วันอาทิตย์ที่ 7 กรกฎาคม พ.ศ. 2562

เข้าใจพฤติกรรมแมว

HOMEPAGE

ไขข้อข้องใจ ทำไมน้องแมวถึงมีนิสัยแบบนั้น ?

ตั้งแต่เลี้ยงแมวมา เคยสงสัยไหมคะว่าทำไมน้องเหมียวชอบมีนิสัยที่คาดเดาไม่ค่อยได้? ไม่ว่าจะชอบตะปบสิ่งที่เคลื่อนไหว ชอบมานอนบนรองเท้าของคุณ ชอบขโมยของ หรือแม้แต่ชอบมากวนตอนคุณเล่นคอมพิวเตอร์! มีเบื้องลึกเบื้องหลังอะไรซ่อนอยู่ในพฤติกรรมเหล่านี้บ้างหรือเปล่าเรามีคำตอบมาไขทุกข้อข้องใจให้ได้รู้กันค่ะ

ทำไมน้องแมวถึงชอบกระโดดมาทับตอนเรานอน

เชื่อว่านี่เป็นเรื่องที่คนเลี้ยงแมวทุกคนต้องเคยเจอค่ะ นอนอยู่บนเตียงอยู่ๆ น้องเหมียวก็กระโดดใส่จนสะดุ้งตื่น แถมยังไม่ยอมไปไหน นอนหลับตาพริ้มบนตัวเรานั่นแหละ ถ้าแมวที่บ้านคุณกำลังทำแบบนี้ทราบไว้เลยนะคะว่าเค้ากำลังบอกความต้องการกับคุณอยู่ ไม่ว่าจะเป็นอาหารแมว น้ำ หรือแม้กระทั่งความสนใจ
ถึงจะชอบเวลาถูกอ้อน แต่คงดีกว่าถ้าเราสามารถฝึกเค้าได้สักหน่อย ไม่ดีเท่าไรถ้าเค้าอ้อนทั้งคืนจนเราแทบไม่ได้นอน ใครที่มีปัญหาถูกน้องแมวกวนจนนอนไม่หลับ Purina ONE มีคำแนะนำดีๆ มาฝากค่ะ
1. แยกห้องนอนกับน้องแมว – โดยปกติแล้วแมวเป็นสัตว์ที่หวงอาณาเขตของตัวเองมากค่ะ ดังนั้นการที่เราเตรียมพื้นที่ให้กลายเป็นที่นอนของเค้าโดยสมบูรณ์แบบ จะทำให้เค้าไม่เข้ามากวนเราเวลานอน และยังทำให้น้องแมวรู้ไปเลยว่าห้องคุณเป็นห้องปลอดแมว โดยเพื่อนๆ อาจจะซื้อคอนโดแมว หรือที่นอนแมวไว้ให้เค้าก็ได้ค่ะ <ref: th.wikihow.com/ฝึกแมวให้เข้านอนเป็นเวลา>
2. เบี่ยงเบนความสนใจ เตรียมของสิ่งอื่นที่จะช่วยให้เจ้าเหมียวรู้สึกสงบลง เช่น ผ้าห่มนุ่มๆ หรือ ของเล่นที่สร้างเสียงคล้ายๆ เสียงหัวใจเต้น เป็นต้น

รู้มั้ย...ทำไมน้องแมวชอบลงไปนอนในกล่อง

เห็นน้องเหมียวหน้าตาน่ารักแบบนี้ แต่จริงๆ แล้วน้องแมวจัดเป็นนักล่าโดยธรรมชาตินะคะ ดังนั้นไม่ต้องแปลกใจไปหากจะเห็นเค้าลงไปซ่อนตัวอยู่ในกล่อง เพราะน้องเหมียวจะใช้กล่องเป็นที่ซ่อนเพื่อซุ่มดูเป้าหมายโดยที่ไม่มีใครเห็น ดังนั้นเราจึงสามารถสร้างสภาพแวดล้อมที่ทำให้เค้ารู้สึกผ่อนคลายได้โดยวางกล่อง 2-3 ใบไว้ตามบริเวณต่างๆ ภายในบ้าน หรือไม่ก็ลองใส่ของเล่นลงไปในกล่องสักใบ วิธีการนี้จะช่วยให้น้องแมวคลายเครียดได้ด้วยค่ะ

รู้มั้ย...ทำไมน้องแมวชอบมานั่งบนคอมพิวเตอร์และโทรทัศน์

อีกหนึ่งข้อสงสัยของคนเลี้ยงแมว ทำไมเจ้าเหมียวถึงชอบไปนอนบนโทรทัศน์นัก นั่นเป็นเพราะอุปกรณ์เหล่านี้มักจะอุ่นสบาย แถมภาพเคลื่อนไหวในจอก็ยังกระตุ้นความสนใจของน้องแมวทั้งหลายได้เป็นอย่างดีอีกด้วย แต่เหตุผลที่สำคัญที่สุดก็คือ น้องเหมียวกำลังพยายามดึงความสนใจให้ออกมาจากจอแล้วมาสนใจพวกเค้าแทนนั่นเองค่ะ รู้แบบนี้แล้วก็เล่นกับเค้าซักหน่อยน้า

รู้มั้ย...ทำไมน้องแมวชอบกระโดดขึ้นที่สูง

พฤติกรรมนี้ก็เกิดจากสัญชาตญาณการเอาตัวรอดของเจ้าเหมียวทั้งหลายเช่นเดียวกันค่ะ เพราะโดยนิสัยแมวแล้วเค้าจะคิดว่ายิ่งสูง ยิ่งปลอดภัยเพราะถ้ามีอะไรอันตรายเกิดขึ้นเค้าก็จะได้ไหวตัวได้ทันนั่นเอง
ซึ่งสถานที่สูงๆ ภายในบ้านก็คงหนีไม่พ้นตู้หรือเฟอร์นิเจอร์แสนรักของทุกคนนั่นเอง ดังนั้น เพื่อปกป้องพื้นผิวของเฟอร์นิเจอร์หรือสิ่งของจากรอยเล็บคมๆ นั่น  Purina ONE แนะนำให้หาสถานที่อื่นให้เจ้าเหมียวกระโดดขึ้นไปแทนได้ เช่น ‘คอนโดแมว’ หรือ ‘ต้นไม้แมว’ เป็นต้น อย่าลืมวางคอนโดแมวเหล่านี้ในตำแหน่งที่ทำให้น้องแมวสามารถมองเห็นได้ทั้งห้อง และสามารถกระโดดขึ้นลงได้ง่ายๆ ด้วยนะคะ

รู้มั้ย…ทำไมน้องแมวชอบคาบซากสัตว์มาฝากเราเสมอๆ

ถ้าวันไหนน้องแมวของเราอยู่ดีๆ ก็คาบสัตว์ตัวเล็กๆ อย่าง หนู จิ้งจก ฯลฯ ที่เค้าล่าได้มามอบให้เรา ไม่ได้หมายความว่าน้องแมวกำลังจะแกล้งให้เราตกใจกลัวเล่นนะคะ แต่เป็นเพราะน้องแมวเป็นสัตว์ที่มีสัญชาติญาณนักล่ามาตั้งแต่กำเนิด จึงถือว่าไม่ใช่เรื่องแปลกที่เค้าจะชอบไล่ล่าสัตว์ตัวเล็กที่มีการเคลื่อนไหวอย่างรวดเร็ว นอกจากนั้นน้องแมวส่วนใหญ่โดยเฉพาะน้องแมวตัวเมีย ก็มักจะมีนิสัยคาบเหยื่อที่ตัวเองล่าได้มาให้ลูกๆ ได้ฝึกการล่าและกินอาหารอยู่เสมอ ซึ่งถ้าน้องแมวเลือกเอาเหยื่อที่ล่ามาให้เรา นั่นก็หมายความว่าเค้ามองเห็นเราเป็นหนึ่งในสมาชิกครอบครัวนั่นเองค่ะ

รู้มั้ย…ทำไมน้องแมวขยันเอาหัวมาชน เอาแก้มมาถูไถเราได้ทุกวัน

หนึ่งในพฤติกรรมที่แสนน่ารักน่าเอ็นดูของน้องแมว นั่นก็คือการที่เค้ามักจะเอาเอาหัวมาชนหรือเอาแก้มมาถูไถตัวเราบ่อยๆ นั่นเองค่ะ โดยการที่น้องแมวทำแบบนี้ก็เป็นเพราะว่าช่วงบริเวณใบหน้าของเค้าจะมีต่อมกลิ่นพิเศษที่จะปล่อยฟีโรโมนออกมา ซึ่งกลิ่นนี้แหละค่ะจะช่วยเปลี่ยนกลิ่นให้แมวตัวอื่นหรือเจ้าของให้อยู่ภายในสิ่งแวดล้อมเดียวกัน แปลได้ง่ายๆ ว่าพฤติกรรมของน้องแมวแบบนี้ ก็คือหนึ่งในวิธีการแสดงความรักและความคุ้นเคยที่น้องแมวจะสื่อให้รู้ว่า เราเป็นพวกเดียวกันกับเค้าแล้วยังไงล่ะคะทุกคน

รู้มั้ย...ทำไมน้องแมวชอบสะกิดเราบ่อย

จริงๆ แล้วแมวแต่ละตัวต้องการความสนใจไม่เท่ากันค่ะ ขึ้นอยู่กับบุคลิกของเค้าเอง แมวบางตัวที่เอาขามาสะกิดเรา เพราะเค้าแค่ต้องการให้ลูบเบาๆ ก็เพียงพอแล้ว แต่บางตัวนั้นต้องการมากกว่านั้น ไม่ว่าจะเป็นการขอให้เล่นด้วย หรือแม้แต่ขนมเล็กๆ น้อยๆ ก็ตาม
เพื่อนๆ ควรจะเริ่มต้นด้วยการแสดงความรักแบบเบาๆ ก่อนเพื่อเป็นการไม่สปอยล์เค้าจนเกินไป เพราะโดยนิสัยแมวทั่วไปแล้ว น้องเหมียวเค้าจำได้นะเวลาที่เค้าทำอะไร แล้วเราตอบสนองกับพฤติกรรมนั้นอย่างไร เช่น ถ้าเค้าสะกิดตัวเราแล้วร้องเหมียว แล้วเราแกะถุงขนมให้เค้ากิน น้องแมวก็จะจำไว้ว่าถ้าครั้งหน้าอยากได้ขนมก็ต้องทำแบบนี้ ซึ่งถ้าต่อไปเราไม่ให้เค้าก็จะกวนเราไปเรื่อยๆ จนกว่าจะได้ในสิ่งที่เค้าต้องการนั่นแหละค่ะ
แม้ว่าน้องแมวมักจะมีนิสัยที่คาดเดาไม่ค่อยได้ แต่ก็ขอบอกเลยว่าไม่ยากเกินกว่าจะทำความเข้าใจค่ะ เพียงแค่เราสังเกต ใส่ใจ และเรียนรู้พฤติกรรมของเค้าไปพร้อมๆ กัน เรากับน้องเหมียวจะได้อยู่ร่วมกันได้อย่างมีความสุข และแน่นอนว่าอย่าลืมใส่ใจเรื่องสุขภาพแมวไปพร้อมกัน ด้วยการเลือก อาหารแมว Purina ONE ให้เค้า เพราะทุกสูตรผลิตด้วยวัตถุดิบคุณภาพเยี่ยม เหมาะกับน้องแมวทุกช่วงวัย ทุกสายพันธุ์ ตั้งแต่วัยเด็กไปจนถึงวัยโต เพื่อให้เค้ามีครบทั้ง 6 สัญญาณสุขภาพดี ภูมิต้านทานแข็งแรง มีผิวหนังและขนสุขภาพดี ดวงตาสดใส ระบบย่อยอาหารและขับถ่ายดีกล้ามเนื้อและหัวใจแข็งแรง กระดูกและข้อต่อแข็งแรง และ ฟันขาว แข็งแรง ไม่มีคราบหินปูน เค้าจะได้ร่าเริงแจ่มใส สร้างความสุขให้เราทุกวัน 

สุนัข

 HOMEPAGE
สุนัข เป็นสัตว์เลี้ยงลูกด้วยน้ำนมหลายชนิดหลายสกุลในวงศ์ Canidae ออกลูกเป็นตัว ลำตัวมีขนปกคลุม มีเขี้ยว 2 คู่ เท้าหน้ามี 5 นิ้ว เท้าหลังมี 4 นิ้ว ซ่อนเล็บไม่ได้ อวัยวะเพศของสุนัขตัวผู้มีกระดูกอยู่ภายใน 1 ชิ้น สุนัขที่ยังคงเป็นสัตว์ป่า เช่น หมาใน (Cuon alpinus) สุนัขที่เลี้ยงเป็นสัตว์บ้าน คือ ชนิด Canis lupus familiaris สุนัขเป็นสัตว์ที่มีหลายพันธุ์ เช่น ลาบราดอร์, โกลเด้น, ชิวาวา และอีกมากมาย มีทั้งขนาดเล็กและใหญ่ ดุและไม่ดุ พันธุ์ที่มีขนาดใหญ่ เช่น โกลเด้น ลาบราดอร์ ที่มีขนาดเล็ก เช่น ชิวาวา ชิสุ ส่วนที่ดุ ได้แก่ ร็อดไวเลอร์ อัลเซเชียน สุนัขแต่ละพันธุ์จะมีนิสัยแตกต่างกัน
สุนัขพัฒนามาจากสัตว์กินเนื้อและล่าเหยื่อ ดังนั้นวิวัฒนาการของฟันสำหรับเคี้ยวเนื้อและกระดูกจึงยังคงมีอยู่ รวมทั้งการมีประสาทดมกลิ่นและตามล่าเหยื่อที่ดีมาก นอกจากนี้สุนัขยังมีกล้ามเนื้อที่แข็งแรงทำให้วิ่งได้เร็วและเร่งความเร็วได้เท่าที่ต้องการ ลักษณะการเดินของสุนัขจะทิ้งน้ำหนักตัวบนนิ้วเท้า ซึ่งส่งผลให้สุนัขเคลื่อนไหวได้คล่องแคล่วกว่าสัตว์ชนิดอื่น นอกจากนี้สุนัขยังมีสัญชาตญาณในการทำงานเป็นกลุ่ม ดังนั้นสุนัขจึงสามารถล่าสัตว์ที่มีขนาดใหญ่กว่าได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ผลการค้นหารูปภาพสำหรับ หมา ความหมาย
สุนัขมีต้นกำเนิดมาจากมนุษย์แถบขั้วโลกเหนือนำมันมาเลี้ยงเมื่อประม12,000ปีที่แล้วแล้ว เชื่อกันว่า สุนัขป่าตัวแรกนั้น เกิดขึ้นเมื่อ31,700ปีก่อน การอพยพข้ามถิ่นและทวีปต่าง ๆ ทำให้สุนัขหลากหลายสายพันธุ์กำเนิดขึ้น "อนูบิส" ซึ่งเป็นชื่อของเทอียิปต์โบราณที่ตัวเป็นหมา หัวเป็นคน และเชื่อว่าสามารถส่งวิญญาณมนุษย์ได้
สุนัขพันธุ์ที่เรียกได้ว่าเป็นสุนัขพันธุ์ต้นตระกูลคือพันธุ์สุนัขไซบิเรียนหรือหมาป่าที่มีอยู่อย่างแพร่หลายในปัจจุบัน ต่อมามีสุนัขป่าอีกพันธุ์หนึ่งที่มนุษย์นำมากินมีชื่อภาษาละตินว่า 'เคนิส ลูปัส(canis lupus)' ซึ่งแปลว่าสุนัขป่า สุนัขป่าชนิดนี้จะเชื่องกว่าสุนัขธรรมดา มีขนยาว หางเป็นแผง กระดูกแก้มโหนก และหางของมันจะเห็นชัดมากขึ้น มีนิสัยรักอิสระกว่าสุนัขป่า
การค้นคว้าวิจัยและศึกษาเรื่องราวของสุนัข ได้มีขึ้นในประเทศอังกฤษ ในแถบยุโรปและอเมริกา แล้วจึงแพร่หลายไปในส่วนต่าง ๆ ของโลก ในสหรัฐอเมริกาได้มีการจัดตั้งเป็นสมาคมผู้เลี้ยงสุนัขขึ้นในปี ค.ศ. 1 (พ.ศ. 1) สุนัขพันธุ์แท้ชนิดแรกที่ได้จดทะเบียนในสหรัฐอเมริกาคือ สุนัขพันธุ์[[อิงลิชเชสเตอร์กริว] ในประเทศอังกฤษได้มีการรวบรวมกันตั้งสมาคมผู้เลี้ยงสุนัขขึ้นเช่นกันในปี ค.ศ. 1859 (พ.ศ. 2402) ในครั้งแรกสมาคมนี้ได้รับรองให้จดทะเบียนสุนัขพันธุ์แท้ได้ 40 สายพันธุ์ และได้จัดวิธีการสุนัขพันธุ์ต่าง ๆ เพื่อความเหมาสมอีกหลายครั้ง ในปี ค.ศ. 1881 (พ.ศ. 2424) สมาคมนี้ได้ให้การรับรองพันธุ์แท้ต่าง ๆ รวมเป็นจำนวน 46 พันธุ์ การแก้ไขเพิ่มเติมการรับรองเป็นสุนัขพันธุ์แท้เป็นครั้งสุดท้าย เมื่อปี ค.ศ. 1974 (พ.ศ. 2417) ได้มีสุนัขที่ให้การรับรองทั้งหมด120กว่าสายพันธุ์

กาแฟ

HOMEPAGE
กาแฟ เป็นเครื่องดื่มที่ทำจากเมล็ดซึ่งได้จาก ต้นกาแฟ หรือมักเรียกว่า เมล็ดกาแฟ คั่ว มีการปลูกต้นกาแฟในมากกว่า 70 ประเทศทั่วโลก กาแฟเขียว (กาแฟซึ่งยังไม่ผ่านการคั่ว) เป็นหนึ่งในสินค้าทางการเกษตรซึ่งมีการซื้อขายกันมากที่สุดในโลก กาแฟมีส่วนประกอบของคาเฟอีน ทำให้มีสรรพคุณชูกำลังในมนุษย์ ปัจจุบันกาแฟเป็นเครื่องดื่มซึ่งได้รับความนิยมมากที่สุดในโลก
เป็นที่เชื่อกันว่าสรรพคุณชูกำลังจากเมล็ดของต้นกาแฟนั้นถูกพบเป็นครั้งแรกในเยเมน แถบอาระเบีย และทางตะวันออกเฉียงเหนือของเอธิโอเปีย และการปลูกต้นกาแฟในสมัยแรกได้แพร่ขยายในโลกอาหรับ หลักฐานบันทึกว่าการดื่มกาแฟได้ปรากฏขึ้นราวกลางคริสต์ศตวรรษที่ 15 อันเป็นหลักฐานซึ่งเชื่อถือได้และเก่าแก่ที่สุด ถูกพบในวิหารซูฟี ในเยเมน แถบอาระเบีย จากโลกมุสลิม กาแฟได้แพร่ขยายไปยังทวีปยุโรป อินโดนีเซีย และทวีปอเมริกา ในระหว่างที่กาแฟเริ่มเดินทางจากทวีปอเมริกาเหนือและตะวันออกกลางสู่ทวีปยุโรป กาแฟได้ถูกส่งผ่านไปยังซิซิลีและอิตาลีในตอนต้นคริสต์ศตวรรษที่ 17 จากนั้นผ่านตุรกีไปยังกรีซ ฮังการี และออสเตรียในตอนปลายคริสต์ศตวรรษที่ 17 จากอิตาลีและออสเตรีย กาแฟได้แพร่ขยายไปยังส่วนที่เหลือของทวีปยุโรป กาแฟได้เข้ามามีบทบาทสำคัญในสังคมหลายแห่งตลอดประวัติศาสตร์ ในแอฟริกาและเยเมน มันถูกใช้ร่วมกับพิธีกรรมทางศาสนา ผลที่ตามมาคือ ศาสนจักรเอธิโอเปีย ได้สั่งห้ามการบริโภคกาแฟตลอดกาล จนกระทั่งถึงรัชสมัยของ จักรพรรดิเมเนลิกที่ 2 มันยังได้ถูกห้ามในจักรวรรดิออตโตมันระหว่างคริสต์ศตวรรษที่ 17 เนื่องจากสาเหตุทางการเมือง และมีส่วนเกี่ยวพันกับกิจกรรมทางการเมืองหัวรุนแรงในทวีปยุโรป
ผลกาแฟ ซึ่งบรรจุเมล็ดกาแฟ เป็นผลผลิตจากไม้พุ่มไม่ผลัดใบขนาดเล็กในจีนัส Coffea หลายสปีชีส์ โดยสายพันธุ์ที่มีการปลูกโดยทั่วไปมากที่สุด ได้แก่ Coffea arabica และกาแฟ "โรบัสต้า" ที่ได้จากชนิด Coffea canephora ซึ่งมีรสเข้มกว่า สายพันธุ์ดังกล่าวมีความทนทานต่อราสนิมใบกาแฟ (Hemileia vastatrix) ซึ่งสร้างความเสียหายอย่างใหญ่หลวง สายพันธุ์กาแฟทั้งคู่มีการปลูกในละตินอเมริกา เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และทวีปแอฟริกา เมื่อสุกแล้ว ผลดังกล่าวจะถูกเก็บรวบรวม นำไปผ่านกรรมวิธีและทำให้แห้ง หลังจากนั้น เมล็ดจะถูกคั่วในอุณหภูมิที่แตกต่างกัน ขึ้นอยู่กับรสชาติที่ต้องการ และจะถูกบดและบ่มเพื่อผลิตกาแฟ กาแฟสามารถตระเตรียมและนำเสนอได้ในหลายวิธี
กาแฟเป็นสินค้าส่งออกที่สำคัญของโลก โดยในปี คริสต์ศักราช 2004 กาแฟเป็นสินค้าการเกษตรส่งออกที่ทำรายได้เป็นอันดับหนึ่งในจำนวน 12 ประเทศ และเป็นพืชที่มีการส่งออกอย่างถูกต้องตามกฎหมายซึ่งมีมูลค่าสูงที่สุดเป็นอันดับ 7 ของโลก ในปี คริสต์ศักราช 2005 กาแฟได้รับการโต้เถียงบางส่วนในด้านการเพาะปลูกต้นกาแฟและผลกระทบกับสิ่งแวดล้อม และมีการศึกษาจำนวนมากที่ระบุถึงความสัมพันธ์ระหว่างการบริโภคกาแฟกับข้อจำกัดทางยาอย่างแน่นอน อย่างไรก็ตาม ก็ยังไม่มีข้อสรุปที่แน่ชัดว่ากาแฟให้คุณหรือให้โทษกันแน่

แวน โก๊ะ ศิลปินเอกของโลกกับผลงานชิ้นเอกของเขา

     HOMEPAGE
  ถ้าเอ่ยชื่อแวน โก๊ะ ขึ้นมา ทุกคนก็คงพอทราบกันดีว่านี่คือชื่อเสียงเรียงนามของจิตรกรเอกของโลก ผู้มีผลงานศิลปะเป็นเอกลักษณ์และโด่งดังอยู่หลายชิ้นด้วยกัน โดยที่อาจจะไม่เคยชมภาพวาดของแวน โก๊ะ กับตาตัวเองเลยก็ตาม ดังนั้นกระปุกดอทคอมจะขอพาทุกคนไปรู้จักศิลปินเอกของโลกที่มีชื่อว่า แวน โก๊ะ พร้อมกับนำภาพวาดของแวน โก๊ะ ที่มีชื่อเสียงโด่งดังถึง 10 ชิ้นมาให้ชมค่ะ
แวน โก๊ะ ประวัติศิลปินเอกของโลกที่แสนโศกเศร้า

          วินเซนต์ แวน โก๊ะ (Vincent van Gogh) เป็นศิลปินเอกชาวเนเธอร์แลนด์ เขาเกิดวันที่ 30 มีนาคม ค.ศ. 1853 ชีวิตวัยเด็กของแวน โก๊ะ ไม่ได้สวยหรูเท่าไร เขาต้องทำงานตั้งแต่อายุได้เพียง 16 ปี และเปลี่ยนงานอยู่เนือง ๆ กระทั่งอายุได้ 27 ปี แวน โก๊ะ ก็ผันตัวเองมาเป็นศิลปินอย่างเต็มตัว ซึ่งใน 5 ปีต่อมา แวน โก๊ะ ก็มีผลงานชิ้นเอกชิ้นแรกนั่นก็คือ ภาพวาด The Potato Eaters 

          ขณะที่เป็นศิลปิน แวน โก๊ะ ก็เดินทางไปยังหลาย ๆ ประเทศในแถบยุโรป และในช่วงชีวิตที่อาศัยอยู่ในฝรั่งเศส แวน โก๊ะ ก็ได้พบกับศิลปินหลาย ๆ คนด้วยกัน จุดนี้ทำให้เขาได้เปิดมุมมองใหม่ ๆ และได้รับแรงบันดาลใจในการวาดภาพให้สว่างและมีสีสันมากขึ้น กระทั่งเขาได้สร้างสรรค์ผลงานชุดดอกทานตะวัน (Sunflowers,1888) ขึ้นมา
 ทว่าในช่วงเวลาดังกล่าวนี้เองที่ แวน โก๊ะ เริ่มแสดงอาการป่วยทางจิตเวชให้เห็น โดยในวันหนึ่งเขามีอาการคลุ้มคลั่งถึงขั้นใช้มีดโกนตัดใบหูข้างหนึ่งของเขา และนับตั้งแต่นั้น แวน โก๊ะ ก็เข้ารับการรักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาลจิตเวชตลอดเวลาเพราะป่วยด้วยโรคซึมเศร้า กระทั่งในวันที่ 27 กรกฎาคม ค.ศ. 1890 แวน โก๊ะ ได้พยายามทำร้ายตัวเองด้วยการยิงตัวตาย และสุดท้ายเขาก็จบชีวิตลงในอีก 2 วันต่อมา ด้วยอายุเพียง 37 ปีเท่านั้น 



แวนโก๊ะ



  อย่างไรก็ตาม ตลอดช่วงชีวิตของการเป็นศิลปิน แวน โก๊ะ ได้สร้างสรรค์ผลงานกว่า 800 ภาพ และแม้เขาจะขายภาพวาดได้เพียงภาพเดียวในตลอดเวลาที่ยังมีชีวิตอยู่ แต่หลังจากที่แวน โก๊ะ จบชีวิตลง ภาพวาดของเขากลับมีมูลค่าเพิ่มขึ้นอย่างมหาศาล และเขายังได้รับการยกย่องให้เป็นศิลปินเอกของโลก ด้วยเอกลักษณ์ของลายพู่กันที่หยาบ แต่หนักแน่นและสื่ออารมณ์ได้อย่างดีเยี่ยม รวมไปถึงองค์ประกอบและการใช้สีของภาพที่แวน โก๊ะ วาดก็เป็นเลิศมาก ๆ ถึงขนาดกาลเวลาจะผ่านมากว่าร้อยปี คุณภาพของภาพวาดก็ยังคงไม่ลบเลือนไป จึงไม่น่าแปลกใจที่ทุกวันนี้จะมีการตั้งพิพิธภัณฑ์ภาพเขียนของแวน โก๊ะ ขึ้นอย่างเป็นทางการ ในชื่อว่า Van Gogh Museum ณ เมืองอัมสเตอร์ดัม ประเทศเนเธอร์แลนด์ เพื่อเป็นสถานที่ในการจัดแสดงภาพวาดของแวน โก๊ะ ทั้งหมดให้ชนรุ่นหลังได้ชมและศึกษาผลงานศิลปะของศิลปินเอกของโลกผู้นี้ 

ผลงาน
แวนโก๊ะ


แวนโก๊ะ

แวนโก๊ะ












โรคซึมเศร้า

HOMEPAGE

โรคซึมเศร้าคืออะไร

สำหรับคนส่วนใหญ่แล้วคำว่าโรคซึมเศร้าฟังดูไม่คุ้นหู ถ้าพูดถึงเรื่องซึมเศร้าเรามักจะนึกกันว่าเป็นเรื่องของอารมณ์ความรู้สึกที่เกิดจากความผิดหวัง หรือการสูญเสียมากกว่าที่จะเป็นโรค ซึ่งตามจริงแล้ว ที่เราพบกันในชีวิตประจำวันส่วนใหญ่ก็จะเป็นเรื่องของอารมณ์ความรู้สึกธะรรมดาๆ ที่มีกันในชีวิตประจำวัน มากบ้างน้อยบ้าง อย่างไรก็ตามในบางครั้ง ถ้าอารมณ์เศร้าที่เกิดขึ้นนั้นเป็นอยู่นานโดยไม่มีทีท่าว่าจะดีขึ้น หรือเป็นรุนแรง มีอาการต่างๆ ติดตามมา เช่น นอนหลับๆ ตื่นๆ เบื่ออาหาร น้ำหนักลดลงมาก หมดความสนใจต่อโลกภายนอก ไม่คิดอยากมีชีวิตอยู่อีกต่อไป ก็อาจจะเข้าข่ายของโรคซึมเศร้าแล้ว
คำว่า “โรค” บ่งว่าเป็นความผิดปกติทางการแพทย์ ซึ่งจำเป็นต้องได้รับการดูแลรักษาเพื่อให้อาการทุเลา ต่างจากภาวะอารมณ์เศร้าตามปกติธรรมดาที่ถ้าเหตุการณ์ต่างๆ รอบตัวคลี่คลายลง หรือมีคนเข้าใจเห็นใจ อารมณ์เศร้านี้ก็อาจหายได้ ผู้ที่ป่วยเป็นโรคซึมเศร้านอกจากมีอารมณ์ซึมเศร้าร่วมกับอาการต่างๆ แล้ว การทำงานหรือการประกอบกิจวัตรประจำวันก็แย่ลงด้วย คนที่เป็นแม่บ้านก็ทำงานบ้านน้อยลงหรือมีงานบ้านคั่งค้าง คนที่ทำงานนอกบ้านก็อาจขาดงานบ่อยๆ จนถูกเพ่งเล็ง เรียกว่าตัวโรคทำให้การประกอบกิจวัตรประจำวันต่างๆ บกพร่องลง หากจะเปรียบกับโรคทางร่างกายก็คงคล้ายๆ กัน เช่น ในโรคหัวใจ ผู้ที่เป็นก็จะมีอาการต่างๆ ร่วมกับการทำอะไรต่างๆ ได้น้อยหรือไม่ดีเท่าเดิม
ดังนั้น การเป็นโรคซึมเศร้าไม่ได้หมายความว่า ผู้ที่เป็นเป็นคนอ่อนแอ คิดมาก หรือเป็นคนไม่สู้ปัญหา เอาแต่ท้อแท้ ซึมเซา แต่ที่เขาเป็นนั้นเป็นเพราะตัวโรค กล่าวได้ว่าถ้าได้รับการรักษาที่ถูกต้องเหมาะสม โรคก็จะทุเลาลง เขาก็จะกลับมาเป็นผู้ทีจิตใจแจ่มใส พร้อมจะทำกิจวัตรต่างๆ ดังเดิม
ผู้ที่ป่วยเป็นโรคซึมเศร้าจะมีการเปลี่ยนแปลงไปจากเดิมค่อนข้างมาก การเปลี่ยนแปลงหลักๆ จะเป็นในด้านอารมณ์ ความรู้สึกนึกคิด พฤติกรรม ร่วมกับอาการทางร่างกายต่างๆ ดังจะได้กล่าวต่อไป

การเปลี่ยนแปลงในผู้ที่เป็นโรคซึมเศร้า

การเปลี่ยนแปลงต่างๆ ที่เกิดขึ้นในผู้ที่เป็นโรคซึมเศร้าดังที่จะกล่าวต่อไปนี้ อาจเป็นแบบค่อยเป็นค่อยไปเป็นเดือนๆ หรือเป็นเร็วภายใน 1-2 สัปดาห์เลยก็ได้ ซึ่งขึ้นอยู่กับหลายๆ ปัจจัย เช่น มีเหตุการณ์มากระทบรุนแรงมากน้อยเพียงได บุคลิกเดิมของเจ้าตัวเป็นอย่างไร มีการช่วยเหลือจากคนรอบข้างมากน้อยเพียงได เป็นต้น และผู้ที่เป็นอาจไม่มีอาการตามนี้ไปทั้งหมด แต่อย่างน้อยอาการหลักๆ จะมีคล้ายๆ กัน เช่น รู้สึกเบื่อเศร้า ท้อแท้ รู้สึกตนเองไร้ค่า นอนหลับไม่ดี 


ลักษณะการเปลี่ยนแปลงที่สำคัญ

1. อารมณ์เปลี่ยนแปลงไป ที่พบบ่อยคือจะกลายเป็นคนเศร้าสร้อย หดหู่ สะเทือนใจง่าย ร้องไห้บ่อย เรื่องเล็กๆน้อยๆ ก็ดูเหมือนจะอ่อนไหวไปหมด บางคนอาจไม่มีอารมณ์เศร้าชัดเจนแต่จะบอกว่าจิตใจหม่นหมอง ไม่แจ่มใส ไม่สดชื่นเหมือนเดิม บางคนอาจมีความรู้สึกเบื่อหน่ายไปหมดทุกสิ่งทุกอย่าง สิ่งที่เดิมตนเคยทำแล้วเพลินใจหรือสบายใจ เช่น ฟังเพลง พบปะเพื่อนฝูง เข้าวัด ก็ไม่อยากทำหรือทำแล้วก็ไม่ทำให้สบายใจขึ้น บ้างก็รู้สึกเบื่อไปหมดตั้งแต่ตื่นเช้ามา บางคนอาจมีอารมณ์หงุดหงิดฉุนเฉียวง่าย อะไรก็ดูขวางหูขวางตาไปหมด กลายเป็นคนอารมณ์ร้าย ไม่ใจเย็นเหมือนก่อน
2. ความคิดเปลี่ยนไป มองอะไรก็รู้สึกว่าแย่ไปหมด มองชีวิตที่ผ่านมาในอดีตก็เห็นแต่ความผิดพลาดความล้มเหลวของตนเอง ชีวิตตอนนี้ก็รู้สึกว่าอะไรๆ ก็ดูแย่ไปหมด ไม่มีใครช่วยอะไรได้ ไม่เห็นทางออก มองอนาคตไม่เห็น รู้สึกท้อแท้หมดหวังกับชีวิต บางคนกลายเป็นคนไม่มั่นใจตนเองไป จะตัดสินใจอะไรก็ลังเลไปหมด รู้สึกว่าตนเองไร้ความสามารถ ไร้คุณค่า เป็นภาระแก่คนอื่น ทั้งๆ ที่ญาติหรือเพื่อนๆ ก็ยืนยันว่ายินดีช่วยเหลือ เขาไม่เป็นภาระอะไรแต่ก็ยังคงคิดเช่นนั้นอยู่ ความรู้สึกว่าตนเองไร้ค่า ความคับข้องใจ ทรมานจิตใจ เหล่านี้อาจทำให้เจ้าตัวคิดถึงเรื่องการตายอยู่บ่อยๆ แรกๆ ก็อาจคิดเพียงแค่อยากไปให้พ้นๆ จากสภาพตอนนี้ ต่อมาเริ่มคิดอยากตายแต่ก็ไม่ได้คิดถึงแผนการณ์อะไรที่แน่นอน เมื่ออารมณ์เศร้าหรือความรู้สึกหมดหวังมีมากขึ้น ก็จะเริ่มคิดเป็นเรื่องเป็นราวว่าจะทำอย่างไร ในช่วงนี้หากมีเหตุการณ์มากระทบกระเทือนจิตใจก็อาจเกิดการทำร้ายตนเองขึ้นได้จากอารมณ์ชั่ววูบ
3. สมาธิความจำแย่ลง จะหลงลืมง่าย โดยเฉพาะกับเรื่องใหม่ๆ วางของไว้ที่ไหนก็นึกไม่ออก ญาติเพิ่งพูดด้วยเมื่อเช้าก็นึกไม่ออกว่าเขาสั่งว่าอะไร จิตใจเหม่อลอยบ่อย ทำอะไรไม่ได้นานเนื่องจากสมาธิไม่มี ดูโทรทัศน์นานๆ จะไม่รู้เรื่อง อ่านหนังสือก็ได้ไม่ถึงหน้า ประสิทธิภาพในการทำงานลดลง ทำงานผิดๆ ถูกๆ
4. มีอาการทางร่างกายต่างๆ ร่วม ที่พบบ่อยคือจะรู้สึกอ่อนเพลีย ไม่มีเรี่ยวแรง ซึ่งเมื่อพบร่วมกับอารมณ์รู้สึกเบื่อหน่ายไม่อยากทำอะไร ก็จะทำให้คนอื่นดูว่าเป็นคนขี้เกียจ ปัญหาด้านการนอนก็พบบ่อยเช่นกัน มักจะหลับยาก นอนไม่เต็มอิ่ม หลับๆตื่นๆ บางคนตื่นแต่เช้ามืดแล้วนอนต่อไม่ได้ ส่วนใหญ่จะรู้สึกเบื่ออาหาร ไม่เจริญอาหารเหมือนเดิม น้ำหนักลดลงมาก บางคนลดลงหลายกิโลกรัมภายใน 1 เดือน นอกจากนี้ยังอาจมีอาการท้องผูก อืดแน่นท้อง ปากคอแห้ง บางคนอาจมีอาการปวดหัว ปวดเมื่อยตามตัว
5. ความสัมพันธ์กับคนรอบข้างเปลี่ยนไป ดังกล่าวบ้างแล้วข้างต้น ผู้ที่เป็นโรคนี้มักจะดูซึมลง ไม่ร่าเริง แจ่มใส เหมือนก่อน จะเก็บตัวมากขึ้น ไม่ค่อยพูดจากับใคร บางคนอาจกลายเป็นคนใจน้อย อ่อนไหวง่าย ซึ่งคนรอบข้างก็มักจะไม่เข้าใจว่าทำไมเขาถึงเปลี่ยนไป บางคนอาจหงุดหงิดบ่อยกว่าเดิม แม่บ้านอาจทนที่ลูกๆ ซนไม่ได้ หรือมีปากเสียงระหว่างคู่ครองบ่อยๆ
6. การงานแย่ลง ความรับผิดชอบต่อการงานก็ลดลง ถ้าเป็นแม่บ้านงานบ้านก็ไม่ได้ทำ หรือทำลวกๆ เพียงให้ผ่านๆ ไป คนที่ทำงานสำนักงานก็จะทำงานที่ละเอียดไม่ได้เพราะสมาธิไม่มี ในช่วงแรกๆ ผู้ที่เป็นอาจจะพอฝืนใจตัวเองให้ทำได้ แต่พอเป็นมากๆ ขึ้นก็จะหมดพลังที่จะต่อสู้ เริ่มลางานขาดงานบ่อยๆ ซึ่งหากไม่มีผู้เข้าใจหรือให้การช่วยเหลือก็มักจะถูกให้ออกจากงาน
7. อาการโรคจิต จะพบในรายที่เป็นรุนแรงซึ่งนอกจากผู้ที่เป็นจะมีอาการซึมเศร้ามากแล้ว จะยังพบว่ามีอาการของโรคจิตได้แก่ อาการหลงผิดหรือประสาทหลอนร่วมด้วย ที่พบบ่อยคือ จะเชื่อว่ามีคนคอยกลั่นแกล้ง หรือประสงค์ร้ายต่อตนเอง อาจมีหูแว่วเสียงคนมาพูดคุยด้วย อย่างไรก็ตามอาการเหล่านี้มักจะเป็นเพียงชั่วคราวเท่านั้น เมื่อได้รับการรักษา อารมณ์เศร้าดีขึ้น อาการโรคจิตก็มักทุเลาตาม

จะรู้ได้อย่างไรว่าเป็นโรคนี้หรือเปล่า

บางคนที่อ่านถึงตอนนี้อาจรู้สึกว่าตนเองก็มีอะไรหลายๆ อย่างเข้ากันได้กับโรคซึมเศร้าที่ว่า แต่ก็มีหลายๆ อย่างที่ไม่เหมือนทีเดียวนัก ทำให้อาจสงสัยว่าจะรู้ได้อย่างไรว่าตนเองเป็นหรือเปล่า
อาการซึมเศร้านั้นมีด้วยกันหลายระดับตั้งแต่น้อยๆ ที่เกิดขึ้นได้ในชีวิตประจำวัน ไปจนเริ่มมีผลกระทบต่อการดำรงชีวิตประจำวัน และบางคนอาจเป็นถึงระดับของโรคซึมเศร้า อาการที่พบร่วมอาจเริ่มตั้งแต่รู้สึกเบื่อหน่าย ไปจนพบอาการต่างๆ มากมาย ดังได้กล่าวในบทต้นๆ
แบบสอบถามภาวะอารมณ์เศร้า (Patient Health Questionnaire; PHQ9) เป็นแบบสอบถามทีใช้เพื่อช่วยในการประเมินว่าผู้ตอบมีมีภาวะซึมเศร้าหรือไม่ รุนแรงมากน้อยเพียงใด เป็นมากจนถึงระดับที่ไม่ควรจะปล่อยทิ้งไว้หรือไม่ แบบสอบถามนี้ไม่ได้บอกว่าเป็นโรคอะไร เพียงแต่ช่วยบอกว่าภาวะซึมเศร้าที่มีอยู่ในระดับไหนเท่านั้น ในการวินิจฉัยว่าเป็นโรคซึมเศร้าหรือไม่นั้น ผู้ที่มีอารมณ์ซึมเศร้ายังต้องมีอาการที่เข้าตามเกณฑ์การวินิจฉัยด้านล่าง
ข้อดีอย่างหนึ่งของแบบสอบถามนี้คือสามารถใช้ช่วยในการประเมินระดับความรุนแรงของอาการได้ ว่าแต่ละขณะเป็นอย่างไร อาการดีขึ้นหรือเลวลง การรักษาได้ผลหรือไม่ ผู้ป่วยอาจทำและจดบันทึกไว้ทุก 1-2 สัปดาห์ โดยถ้าการรักษาได้ผลดีก็จะมีการเปลี่ยนแปลงในทางที่ดีขึ้นโดยมีค่าคะแนนลดลงตามลำดับ

โรคอื่นที่มีอาการคล้ายคลึงกับโรคซึมเศร้า

ภาวะอารมณ์ซึมเศร้าจากการปรับตัวไม่ได้กับปัญหาที่มากระทบ เป็นภาวะที่เกิดจากการปรับตัวไม่ได้กับปัญหาต่างๆ ที่เข้ามากระทบ เช่น ย้ายบ้าน ตกงาน เกษียน เป็นต้น โดยจะพบอาการซึมเศร้าร่วมด้วยได้ แต่มักจะไม่รุนแรง ถ้ามีคนมาพูดคุย ปลอบใจก็จะดีขึ้นบ้าง อาจมีเบื่ออาหารแต่เป็นไม่มาก ยังพอนอนได้ เมื่อเวลาผ่านไป ค่อยๆ ปรับตัวได้กับสถานการณ์ที่เปลี่ยนไป ภาวะอารมณ์ซึมเศร้าที่มีก็จะทุเลาลง
โรคอารมณ์สองขั้ว ในโรคอารมณ์สองขั้ว ผู้ป่วยจะมีอาการเหมือนกับโรคซึมเศร้าอยู่ช่วงหนึ่ง และมีอยู่บางช่วงที่มีอาการออกมาในลักษณะตรงกันข้ามกับอาการซึมเศร้า เช่น อารมณ์ดีเบิกบานมากผิดปกติ พูดมาก ขยันมาก เชื่อมั่นตัวเองมากกว่าปกติ ใช้เงินเปลือง เป็นต้น ซึ่งทางการแพทย์เรียกระยะนี้ว่า ระยะแมเนีย ผู้ที่เป็นโรคอารมณ์สองขั้วบางครั้งจะมีอาการของโรคซึมเศร้า บางครั้งก็มีอาการของภาวะแมเนีย
โรควิตกกังวล พบบ่อยว่าผู้ที่เป็นโรคซึมเศร้ามักจะมีอาการวิตกกังวล ห่วงโน่นห่วงนี่ ซึ่งเป็นอาการหลักของโรควิตกกังวล ที่ต่างกันคือในโรควิตกกังวลนั้น จะมีอาการหายใจไม่อิ่ม ใจสั่น สะดุ้ง ตกใจง่าย ร่วมด้วย อาการเบื่ออาหารถึงมีก็เป็นไม่มาก น้ำหนักไม่ลดลงมากเหมือนผู้ป่วยโรคซึมเศร้า และโรคซึมเศร้านั้นนอกจากอาการวิตกกังวลแล้วก็จะพบอาการซึมเศร้า ท้อแท้ เบื่อหน่ายชีวิต ร่วมด้วยโดยที่อาการอารมณ์เศร้านี้จะเห็นเด่นชัดกว่าอาการวิตกกังวล